เปิดร้านขายยาให้ประสบความสำเร็จ เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

ในการทำธุรกิจร้านขายยาในประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงของการเติบโตที่น่าจับตามอง โดยมีการคาดการณ์ว่า ยอดขายในปี 2567 จะสูงถึง 43,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 4.0% เมื่อเทียบกับปีก่อน มีแนวโน้มของสังคมผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทุกคนเริ่มมีความสนในเรื่องดูแลสุขภาพที่สูงขึ้น ทำให้การเปิดร้านขายยาเป็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตาม การเติบโตของตลาดร้านขายยาก็มาพร้อมกับความท้าทายที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแข่งขันที่รุนแรงจากร้านขายยาเชนสโตร์ขนาดใหญ่ที่มีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง  ทำให้ผู้ประกอบการรายใหม่ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการสร้างฐานลูกค้าและแข่งขันด้านราคา การที่จะประสบความสำเร็จในการเปิดร้านขายยาในสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันสูงเช่นนี้ ผู้ประกอบการจำเป็นต้องมีการวางแผนธุรกิจที่รอบคอบและมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการสร้างความแตกต่างให้กับร้านของตนเอง

1.การขออนุญาตและการจดทะเบียน

ขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุดในการเริ่มต้นธุรกิจร้านขายยาคือการขออนุญาตและการจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเปิดร้านขายยาจะต้องยื่นคำขออนุญาตจัดตั้งสถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน (ร้านขายยาแผนปัจจุบัน) ต่อสำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่ที่ต้องการเปิดร้าน  การดำเนินการนี้จำเป็นต้องมีการเตรียมเอกสารต่างๆ ให้ครบถ้วน และจัดเตรียมสถานที่ให้เป็นไปตามคำแนะนำและมาตรฐานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งรวมถึงการมีเภสัชกรที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมประจำร้านตลอดเวลาทำการ 

สำหรับผู้ที่ไม่ใช่เภสัชกรก็สามารถเป็นเจ้าของร้านขายยาได้ แต่ต้องมีเภสัชกรที่มีใบอนุญาตปฏิบัติงานประจำร้านตามกฎหมายกำหนด นอกจากนี้ การจดทะเบียนพาณิชย์ให้ถูกต้องตามกฎหมายก็เป็นอีกขั้นตอนที่ไม่สามารถละเลยได้ โดยในกรุงเทพฯ สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลังหรือสำนักงานเขต ส่วนในต่างจังหวัดสามารถติดต่อได้ที่เทศบาลหรือองค์การบริหารส่วนตำบลใกล้บ้าน ข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเปิดร้านขายยา เช่น การมีเภสัชกรประจำร้าน แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งอาจเป็นความท้าทายในการสรรหาและรักษาบุคลากรที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการแข่งขันสูงในตลาด การทำความเข้าใจข้อกำหนดเฉพาะสำหรับใบอนุญาตประเภทต่างๆ เช่น การขายยาแผนปัจจุบันทั่วไป หรือยาควบคุมพิเศษ จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเลือกรูปแบบธุรกิจที่เหมาะสมและปฏิบัติตามกฎระเบียบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2.การวางแผนธุรกิจและการเงิน

การวางแผนธุรกิจและการเงินที่มีประสิทธิภาพเป็นรากฐานสำคัญของความสำเร็จในการเปิดร้านขายยา ผู้ประกอบการควรวางแผนการลงทุนและการเงินอย่างรอบคอบ โดยประเมินเงินลงทุนเริ่มต้นที่จำเป็นสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าเช่าสถานที่ ค่าตกแต่งร้าน และค่าสินค้าคงคลัง จากข้อมูล งบประมาณในการลงทุนเปิดร้านขายยาอาจอยู่ที่ประมาณ 200,000 – 300,000 บาท ซึ่งจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดของร้านและทำเลที่ตั้ง โดยมีรายละเอียดค่าใช้จ่ายโดยประมาณดังนี้ ค่าอุปกรณ์ (ตู้, เคาน์เตอร์, ป้ายไฟ) ประมาณ 80,000 บาท, ค่ายาและอาหารเสริมเริ่มต้นประมาณ 100,000 บาท, ค่าเช่าห้องประมาณ 10,000 – 30,000 บาทต่อเดือน (ขึ้นอยู่กับทำเล), และค่าจ้างพนักงานหรือเภสัชกรประมาณ 25,000 บาทต่อคนต่อเดือน 

การมีแผนธุรกิจที่ชัดเจนจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถกำหนดทิศทางและเป้าหมายของร้าน ระบุกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการเพื่อบรรลุเป้าหมาย คาดการณ์ปัญหาและอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้น พร้อมทั้งวางแผนรับมือ และสื่อสารวิสัยทัศน์ของร้านให้แก่พนักงานและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การขาดการวางแผนทางการเงินที่เหมาะสมอาจนำไปสู่ปัญหาการเงินบานปลาย  และส่งผลกระทบต่อความยั่งยืนของธุรกิจในที่สุด การลงทุนเริ่มต้นที่ค่อนข้างสูง  แสดงให้เห็นว่าการจัดหาแหล่งเงินทุนที่เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนส่วนตัว เงินกู้ หรือจากนักลงทุน เป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจร้านขายยา

3. การเลือกทำเลที่ตั้ง

การเลือกทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของร้านขายยา  ควรพิจารณาทำเลที่มีผู้คนสัญจรไปมาจำนวนมาก เช่น ย่านชุมชนที่มีประชากรหนาแน่น หรือใกล้กับโรงพยาบาลและสถานพยาบาลอื่นๆ  การเข้าถึงร้านได้ง่าย มีที่จอดรถสะดวกสบาย และสามารถเข้าถึงได้ทั้งผู้ที่เดินทางด้วยเท้าและยานพาหนะ เป็นปัจจัยที่ช่วยดึงดูดลูกค้า นอกจากนี้ การศึกษาและวิเคราะห์ร้านคู่แข่งในบริเวณใกล้เคียงก็มีความสำคัญ เพื่อทำความเข้าใจจุดแข็ง จุดอ่อน และโอกาสในการแข่งขัน การเลือกทำเลที่ไม่ดีอาจส่งผลให้ร้านขายยามีจำนวนลูกค้าไม่เพียงพอต่อการสร้างรายได้ที่ยั่งยืน การศึกษาคู่แข่ง ยังเชื่อมโยงกับประเด็นการแข่งขันที่สูงขึ้น  โดยการทำความเข้าใจกลยุทธ์ของคู่แข่ง  จะช่วยให้ร้านขายยาใหม่สามารถวางแผนกลยุทธ์การสร้างความแตกต่างได้อย่างเหมาะสม

4. การออกแบบและตกแต่งร้าน

การออกแบบและตกแต่งร้านขายยาให้มีความน่าสนใจและสร้างบรรยากาศที่ดีมีผลต่อการตัดสินใจเข้ามาใช้บริการของลูกค้า บรรยากาศที่ไม่น่าเข้ามาใช้บริการอาจทำให้ลูกค้าไม่ต้องการเข้ามาในร้าน การออกแบบร้านให้ดูโปร่ง โล่งสบาย ใช้แสงสว่างที่เพียงพอ และเลือกใช้โทนสีที่สะอาดตา การจัดวางสินค้าอย่างเป็นระเบียบมีชั้นวางยาที่เหมาะสมกับประเภทของสินค้า  เป็นสิ่งสำคัญ 

5. การจัดหาสินค้าและอุปกรณ์

การจัดหาสินค้าและอุปกรณ์ที่ครบครันและมีคุณภาพเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจร้านขายยา ควรมีการตรวจสอบสินค้าและสต็อกยาอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการตรวจนับยาและเวชภัณฑ์เพื่อให้มีสินค้าเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า การเลือกตัวแทนจำหน่ายยาหรือดีลเลอร์ที่น่าเชื่อถือและมีมาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญในการรับประกันคุณภาพและความถูกต้องของยา นอกจากนี้ การตรวจสอบวันหมดอายุของยาก็เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เพื่อป้องกันการจำหน่ายยาที่หมดอายุ  การไม่สามารถจัดหาสินค้าได้อย่างต่อเนื่อง หรือการมีสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของร้านและความเชื่อมั่นของลูกค้า การมีซัพพลายเออร์ที่เชื่อถือได้และการบริหารจัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพ เป็นพื้นฐานสำคัญในการให้บริการที่น่าเชื่อถือและสร้างความไว้วางใจจากลูกค้า

6. การจ้างงานและฝึกอบรมพนักงาน

การมีพนักงานที่มีความรู้ความสามารถและได้รับการฝึกอบรมอย่างดีเป็นสิ่งสำคัญในการให้บริการที่มีคุณภาพโดยเฉพาะเภสัชกรประจำร้าน ควรได้รับการพัฒนาให้เป็นที่ปรึกษาสุขภาพที่สามารถเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้อย่างดี  ในการฝึกอบรมพนักงานทั้งในด้านความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การบริการลูกค้า และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างมาตรฐานการบริการที่ดีและลดข้อผิดพลาดในการปฏิบัติงาน พนักงานที่ได้รับการฝึกอบรมอย่างดีจะสามารถให้คำแนะนำที่ถูกต้องและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้

7. การตลาดและการประชาสัมพันธ์

การทำการตลาดและการประชาสัมพันธ์เป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ โดยการทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์  เช่น การมีเว็บไซต์ หรือการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ก็เป็นอีกช่องทางที่สำคัญในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้น การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย หรือการให้ข้อมูลด้านสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ  สามารถช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่และกระตุ้นยอดขายได้  

8. การเปิดร้านและการดำเนินงาน

การเปิดร้านและการดำเนินงานจริง ซึ่งต้องมีการตรวจสอบความพร้อมของร้านในทุกด้าน รวมถึงการให้บริการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมืออาชีพ  การให้บริการลูกค้าด้วยความเอาใจใส่ การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการใช้ยาและการดูแลสุขภาพโดยเภสัชกร และการจัดการร้านให้สะอาด เป็นระเบียบ และสะดวกต่อการใช้งาน จะช่วยสร้างความประทับใจและความพึงพอใจให้กับลูกค้า การติดตามผลตอบรับจากลูกค้าอย่างต่อเนื่องและการปรับปรุงการบริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า  เป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จในระยะยาวของธุรกิจ

บทสรุป

การเปิดร้านขายยาให้ประสบความสำเร็จในประเทศไทยนั้นต้องอาศัยการวางแผนที่รอบคอบ การเตรียมความพร้อมในทุกด้าน และการปรับตัวให้เข้ากับแนวโน้มและความท้าทายของตลาด ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญกับการขออนุญาตและการจดทะเบียนธุรกิจ การวางแผนธุรกิจและการเงิน การเลือกทำเลที่ตั้ง การออกแบบและตกแต่งร้าน การจัดหาสินค้าและอุปกรณ์ การจ้างงานและฝึกอบรมพนักงาน การตลาดและการประชาสัมพันธ์ และการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ การเรียนรู้จากข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น และการมองเห็นโอกาสจากแนวโน้มของธุรกิจ จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างร้านขายยาที่ประสบความสำเร็จและเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว

ผลงานที่อ้างอิง

  1. ร้านขายยา ปี’ 67 คาดยอดขายโต 4.0% ตลาดแข่งขันรุนแรงขึ้นจากร้านเชนสโตร์ – YouTube, https://www.youtube.com/watch?v=gV1jnzDrQ7U
  2. ร้านขายยา ปี’ 67 คาดยอดขายโต 4.0% ตลาดแข่งขันรุนแรงขึ้นจากร้านเชนสโตร์ – ศูนย์วิจัยกสิกรไทย, https://www.kasikornresearch.com/th/analysis/k-social-media/Pages/Drug-Store-CIS3480-FB-2024-04-04.aspx
  3. ธุรกิจร้านขายยาแข่งเดือด รับสังคมสูงวัยขั้นสุดยอด – Policy Watch, https://policywatch.thaipbs.or.th/article/life-30
  4. แนวโน้มธุรกิจร้านขายยา 2568 ใครอยากเปิดร้านขายยาต้องรู้ – Procabin,https://procabin.co/pharmacy-trend-2025/
  5. ขั้นตอนการเปิดร้านขายยา 2567: เปิดร้านขายยาต้องทำอย่างไรบ้าง? – Procabin, https://procabin.co/%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88/